แกลดิโอลัส จัดเป็นพืชหัว (Corm) เมื่อปลูกแล้วจะเกิดหัวใหม่ขึ้นแทนหัวเก่า สามารถใช้ขยายพันธุ์ ได้ต่อไปและยังมีหัวย่อยเกิดขึ้นอีกมากมาย ปัจจุบันนี้มีการผลิตหัวย่อยได้ผลดีที่ภาคเหนือ ชนิดของแกลดิโอลัสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และได้มีการนํามาใช้เป็นหลักในการพัฒนาการผลิต พันธุ์แกลดิโอลัสพันธุ์ใหม่ๆ คือ
1. แกลดิโอลัส แกรนดิฟลอรัส (Gladiolus grandiflorus) เป็นชนิดต้นใหญ่ช่อดอกอวบยาว
และ แข็งแรง ดอกใหญ่เรียงชิดกัน ช่อดอกหนึ่ง ๆ อาจมีดอกถึง 20 ดอก และดอกบานพร้อมกัน
ประมาณ 5-7 ดอก
2. แกลดิโอลัส พรายมูลินัส (Gladiolus primulinus) เป็นชนิดต้นเล็ก ช่อดอกเล็กยาวเรียว
ดอกเล็กเรียงห่างกัน จํานวนดอกในช่อน้อย มีลักษณะพิเศษคือ กลีบบนชั้นในงุ้มงอปรกเกสร
3. แกลดิโอลัส ทูเบอเจนนิอาย (Gladiolus tubergenii) เป็นชนิดที่ต้นและดอกเล็ก แต่ดอกในช่อเรียง
ชิดกันใช้ในการผสมเพื่อผลิตแกลดิโอลัสพันธุ์ดอกจิ๋ว
4. แกลดิโอลัส โควิลลีอาย (Gladiolus covillei) เป็นลูกผสม
ระหว่าง แกลดิโอลัส คาร์ดินาลิส (Gladiolus cardinalis) ซึ่ง
เป็นชนิดที่มีต้นสูงใหญ่ ดอกสีแดง กับแกลดิโอลัส ทริสติส
(Gladiolus tristis) ซึ่งเป็นชนิดดอกเล็ก สูงไม่เกิน 60 ซม. ใน
1 ช่อมีเพียง 2-4 ดอก มีสีขาวหรือครีม และมีสีม่วงหรือสีนํ้า
ตาลปนอยู่เป็นเส้น
5. แกลดิโอลัส นานุส (Gladiolus nanus) เป็นประเภทหนึ่งของพันธุ์โควิลลีอายที่ต้นมีขนาด
เล็ก ช่อดอกเล็กเรียวยาว ขนาดดอกเล็กบอบบาง มีสองสีในแต่ละกลีบจํานวนดอกในช่อน้อยและ ดอก
จะบานพร้อมกันคราวหนึ่งเพียง 1-2 ดอก ในแต่ละช่อ
ขอบคุณข้อมูล : http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/flower/gladiolus.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น